ผ้าม่านพับ
ม่านพับ Roman blind อีกหนึ่งรูปแบบที่เป็นที่นิยม ด้วยลักษณะที่เรียบง่าย ม่านพับจะเป็นม่านที่ใช้รอกในการดึงผ้าจากด้านล่างขึ้นด้านบนต่างจาก มู่ลี่ โดยจะพับทบไปมา ลักษณะการพับจะเป็นชั้นเรียงซ้อนกันขึ้นไป ด้วยการพับเป็นชั้นๆ ซ้อนกัน โดยระบบรางสำหรับม่านพับโดยเฉพาะ เมื่อต้องการเปิดม่าน แค่ดึงโซ่วนหรือโซ่ไข่ปลา ผ้าม่านจะถูกดึงไปเก็บที่ด้านบน ไม่เสียพื้น เปิดทัศนะวิศัยทำให้การมองเห็นมากกว่า การใช้งาน รูดเปิด-ปิดขึ้นลงแนวดิ่ง เป็นผ้าม่านที่นิยมอีกแบบ ด้วยเป็นรูปแบบที่ทันสมัย สำหรับคนรุ่นใหม่ ม่านพับจะใช้รางเฉพาะ ตัวรางเป็นอลูมิเนียมทรงเหลี่ยม มีอุปกรณ์ควบคุมในการหยุดม่านในตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อหยุดการดึง ผ้าม่านจะคงที่ในในระยะที่เราต้องการ เมื่อติดตั้งแล้วจะมองไม่เห็นราง จะมีโซ่ไข่ปลาไว้สำหรับปรับดึงขึ้น-ลง เพื่อเปิด-ปิดผ้าม่าน
การออกแบบม่านพับ ลายผ้าม่านสามารถตกแต่งได้หลายรูปแบบ อาจใช้ผ้าต่างสีมาตัดขอบ เพื่อความโดดเด่นสะดุดตา หรืออาจเพิ่มเติม ตกแต่งด้วยเพิ่มชายครุยตามการออกแบบ เพื่อให้เกิดความหรูหรา สวยงาม จุดเด่นอีกอย่างของผ้าม่านพับ คือยื่นออกจากผนังไม่มาก โดยยื่นออกมาแค่ประมาณ 3 ซม.เท่านั้น นอกจากนี้แล้วม่านพับยังสามารถประยุกต์ไปอยู่ร่วมกับผ้าม่านแบบอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่นอาจทำเป็นผ้าม่าน 2 ชั้น โดยชั้นในเป็นม่านจีบที่เป็นผ้าโปร่ง ส่วนด้านนอกก็ใช้ผ้าทึบเป็นม่านพับ เป็นต้น
ผ้าที่เหมาะสำหรับทำม่านพับ ควรใช้เป็นผ้าที่มีเนื้อหนา จะทำให้ม่านทิ้งตัวได้ดี โดยส่วนใหญ่ผ้าเนื้อหนาจะมีน้ำหนักมากกว่า ทำให้การทิ้งตัวของม่านดีกว่าผ้าที่บางกว่า การเลือกใช้ผ้าทำม่านพับไม่ควรใช้ผ้ามีมีความเงาของเนื้อผ้าเนื่องจากผ้าที่เงาจะทำให้เห็นลอยเย็บและรอยย่นมากว่าผ้าแบบธรรมดา ควรใช้เป็นผ้าทอลาย (ผ้าจัสการ์ด) ที่มีส่วนผสมของค๊อดตอล อาจเป็นผ้าลายทางหรือเรียบ กุ้นด้วยผ้าตัดสี จะได้รูปแบบที่สวยงาม เด่น สะดุดตา